วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปวิวัฒนาการศึกษาไทย

สรุปวิวัฒนาการการศึกษาไทย
การศึกษาไทยสมัยโบราณ
การศึกษาในสมัยนั้นมีบ้าน เป็นสถานที่ขัดเกลาจิตใจให้สมาชิกในบ้าน และวัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีพระที่คอยอบรมสั่งสอนธรรมมะให้เเก่พุทธศาสนิกชน การศึกษาในสมัยนั้น ผู้ชายไทยส่วนใหญ่นิยมบวชเรียน ศึกษาธรรมมะ ทางพระพุทธศาสนา ส่วนผู้หญิงไทย นิยมเรียนเย็บปักถักร้อย ทำอาหาร เพื่อออกเรือน ในสมัยก่อนนั้นได้แบ่งออกเป็น4 สมัย คือ

ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย
      ผู้ชายเน้นบวชเป็นพระ ซึ่งศึกษาพระไตรปิฏก ส่วนผู้หญิงเน้นการเป็นกุลสตรีที่ดี การเป็นแม่บ้านแม่บ้านเพื่อให้ตัวเองเป็นภรรยาที่ดีของสามี
     สถานที่ศึกษาในสมัยสุโขทัยนั้นแบ่งได้ประเภท คือ
1. บ้าน เป็นสถานที่เริ่มต้นของผู้ชายและผู้หญิงทุกคน โดยอบรมบ่มเพาะจากบิดามารดา
2. วัด เป็นสถานที่ที่ศึกษาสำหรับผู้ชายเป็นพระเพื่อศึกษาพระไตรปิฏก จริยธรรมคุณธรรม ส่วนผู้หญิงจะเรียนเกี่ยวกับฝึกความเป็นกุลสตรี การเย็บปักถักร้อย ทำอาหาร
3. สำนักราชบัณฑิต สำหรับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ศึกษาวิชาชีพที่สูงขึ้นมา
4. วัง สำหรับเชื้อราชวงศ์ ศึกษาเกี่ยวกับยุทธหัตถี การปกครอง

ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. แบบทหาร เรียนเกี่ยวกับใช้อาวุธ เพื่อนำไปปกป้องการรุกรานจากเมืองต่างๆๆในสมัยนั้น
2. แบบพลเรือน พลเรือนชายจะศึกษาพระไตรปิฏก เลข ภาษาและโหราศาสตร์ ส่วนผู้หญิงเรียนเพื่อออกเรือน เย็บปักถักร้อย, ทำอาหาร เป็นต้น
สมัยอยุธยานั้นมีการแต่งหนังสือจินดามณี  เป็นเล่มแรกของการศึกษา และตั้งโรงเรียนมิชชันนารี

ประวัติศาสตร์สมัยธนบุรี
มีสงครามเกิดขึ้นตลอดเวลา เเต่พระเจ้าตากสินมหาราช คอยทำนุบำรุงอยู่เสมอ เน้นบำรุงตำราทางศาสนา ศิลปะและวรรณคดี  และ ศูนย์กลางการศึกษาอยู่ที่วัดโดยมีพระสงฆ์สอนหนังสือ หนังสือที่ใช้ในการอบรมสั่งสอนมีหนังสือจินดามณี

ประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์
    ในรัชกาลที่4 โดยให้เด็กชายเข้าวัดให้เรียน อ่าน เขียน และหลักคำสอนศาสนา โดยชนชั้นขุนนางจะเรียนเน้นเรื่องปรัชญา เครื่องกล เครื่องมือและกลไก ในสมัยนี้ไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ 
    ในรัชกาลที่5 ได้นำการศึกษาแบบตะวันตกเข้ามาใช้ในการศึกษาไทย อีกทั้งยังมีการเลิกทาสอีกด้วย เพื่อช่วยให้ทุกคนนั้นเท่าเทียมกันทางด้านการศึกษา

ประวัติการศึกษาไทยและการพัฒนาการศึกษาไทย
    ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.5) ทรงให้มีความรู้ทางหนังสือและทรงเปลี่ยนระบบการศึกษาเดิมเป็นแบบตะวันตก ยังทำให้การศึกษาระหว่างชายหญิงเท่าทียมกัน และทรงตั้งโรงเรียนหลวง  คือโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ และทรงปรับปรุงเป็นโรงเรียนนายทหารมหาดเล็กและได้ตั้งมหาวิทยาลัยแห่งของประเทศไทยคือมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ในปัจจุบันนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีมาทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีความรวดเร็ว ทันสมัย และกว้างขวาง มากขึ้น
  
ปฏิรูปการศึกษาไทย 1
  การศึกษาไทยเป็นระบบที่ล้มเหลวในการสอนคนอ่าน เขียนได้อย่างแท้จริง
คุณภาพการศึกษาไทยที่พบในโลกจริง
1. เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ในระดับที่จำกัด
2. เด็กไทยจำนวนมากไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับสูง
3. ท่องจำแต่ไม่เข้าใจ
4. บัณฑิตไม่สามารถทำงานได้ ทำงานไม่เป็น

อะไรทำให้การศึกษาไทยล้มเหลว
1. รัฐไม่ใส่ใจจัดสรรงบประมาณให้น้อย
2. ครูเงินเดือนน้อย คนเก่งไม่มาเป็นครู
3. เด็กไทยเรียนน้อยเกินไป ไม่ขยัน

การปฏิรูปการศึกษาไทย 2
เป้าหมายการศึกษาที่ดี
การที่ประชาชนได้มีความรู้ ทักษะที่จะนำไปแก้ไขปัญหาและพัฒนาตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดี และจะพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น ต้องมีพัฒนาอย่างน้อย 3 ด้าน คือ
1. ความฉลาดทางปัญญา IQ
2. ความฉลาดทางอารมณ์ EQ
3. ความฉลาดทางสังคม SQ
ผู้ที่ศึกษาในอุดมศึกษายังขาดด้านอารมณ์และสังคมสังคมไทยถูกครอบงำด้านวัตถุนิยมของระบบเศรษฐกิจ  ทุนนิยม การศึกษากลายเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ ผู้เรียนเป็นแรงงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นโรงงานผลิตแรงงาน

สถานการณ์ การศึกษาไทย 2557 (The State of Thai Education 2014)
      การวิจัยของ PISA ในการเปรียบเทียบความสามารถทางด้านการคิด การอ่านและคำนวณ ของนักเรียนอายุ 15 ปีทั่วโลก พบว่านักเรียนไทยมีการศึกษาด้อยกว่าสิงคโปร์และเวียดนาม และในวิจัย The World Economic Forum พบว่าการศึกษาไทยด้อยที่สุดในสมาชิกอาเซียน ซึ่งแรงงานที่มีประสิทธิภาพทางการศึกษาที่ต่ำนั้นทำให้เกิดปัญหาคอขวดของประเทศ ซึ่งทางสำนักงานรองรับมาตรฐานและประเมินคุณภาพทางศึกษาได้สำรวจโรงเรียน 30,010โรงเรียนมี 65% ที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แปลว่ามีนักเรียนหนึ่งในสามที่จะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ทำให้รัฐมนตรีได้เห็นปัญหาจึงได้สร้างครูพันธุ์ใหม่ตั้งแต่ 2009 ถึง 2013 แต่ก็ไม่ทำให้การศึกษานั้นดีขึ้นเลย จนถึงปัจจุบันการศึกษาไทยก็ยังตามหลังประเทศอื่นอีกมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น